ถ้าพูดถึงละครหลายคนคงคิดถึงเรื่องของการดูละครแต่เมื่อ นานมาแล้วรุ่นพ่อ-แม่ของเราท่านเริ่มจากการฟังละครวิทยุ เวลากว่า 40 ปีแล้วนะที่ละครวิทยุได้ถือกำเนิดขึ้นมา แต่ก็ยังมาหลังละครเวที ซึ่งละครวิทยุนั้นต้องใช่จินตนาการสูง ผู้เล่าละครวิทยุเองก็ต้องมีความสามารถที่จะสื่อสารทางเสียง ให้ผู้ฟังได้เข้าใจได้ง่าย เพื่อเข้าถึงเนื้อเรื่องที่กำลังเล่านั้นเอง นักพูดบางคนอาจจะต้องดัดเสียงตามบทละครที่ได้รับมา อย่างเสียที่ใจก็ต้องเล่นออกมาให้ผู้ฟังได้เข้าถึงความรู้สึกว่านักพูดเป็น ตัวละครนั้นอยู่จริงๆ ไม่เพียงแค่ต้องทำเสียงร้องไห้แต่ยังต้องทำเสียง ให้ผู้ที่กำลังฟังรู้สึกถึงอารมณ์ตามอีกด้วย ละครหนึ่งเรื่อง จะต้องใช้นักแสดงหรือนักพูด 3-4 คน และที่สำคัญที่สุดคือ เสียงของแต่ละคนจะต้องแตกต่างกันอย่างมาก จนแยกออกว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร เมื่อแสดงไปนักแสดงทุกคนจะต้องยืนถือบทเพื่ออ่านอยู่ตรงหน้าไมเลย เพื่อจะได้ไม่ลืมบทบาทและ ไม่ผิดพลาดอีกด้วย ส่วนเสียงสัตว์ เสียงคลื่น เสียงน้ำ เสียงชกต่อย เสียงม้าวิ่ง เสียงทะเลาะวิวาท เสียงปืน เสียงพวกนี้ อาจจะต้องใช้โปแกรมคอมพิวเตอร์เข้ามาเสริม ส่วนเรื่องของอารมณ์นักแสดงจะต้องมีความสามารถที่ค่อนข้างจะยากซักหน่อย เพราะอารมโกรธแค้น เกียจชัง เครียด อารมจะต้องสื่ออกมาได้ต่างกันมาก จากที่บอกมานั้นละครวิทยุเราจะถือว่าเป็นสื่อที่สำคัญสื่อหนึ่งที่สามารถ แบ่งปันความสุข และสามารถสร้างรอยยิ้มให้กับผู้คนได้มากมายเลยทีเดียว ซึ่งตอนนี้ละครวิทยุเกือบจะถูกลืมเลือนไปแล้ว เพราะเด็กรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ดูแต่ละครทีวีจนเกือบจะลืมละครที่แท้จริงแล้วยัง มีละครที่สามารถ สื่อสารทางเสียงอย่างละครวิทยุ พวกเราต้องช่วยกันอนุรักษ์และสร้างสรรค์ให้สื่อบันเทิงที่ขึ้นชื่อว่าละคร วิทยุได้อยู่คู่กับคนไทยไปตลอดชั่วลูกชั่วหลาน